6. สทฺธาสุตฺตํ
[36] เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ อถ โข สมฺพหุลา สตุลฺลปกายิกา เทวตาโย อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐํสุฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข เอกา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘สทฺธา ทุติยา ปุริสสฺส โหติ,
โน เจ อสฺสทฺธิยํ อวติฏฺฐติ;
ยโส จ กิตฺตี จ ตตฺวสฺส โหติ,
สคฺคญฺจ โส คจฺฉติ สรีรํ วิหายา’’ติฯ
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมา คาถาโย อภาสิ –
‘‘โกธํ ชเห วิปฺปชเหยฺย มานํ,
สํโยชนํ สพฺพมติกฺกเมยฺย;
ตํ นามรูปสฺมิมสชฺชมานํ,
อกิญฺจนํ นานุปตนฺติ สงฺคา’’ติฯ
‘‘ปมาทมนุยุญฺชนฺติ , พาลา ทุมฺเมธิโน ชนา;
อปฺปมาทญฺจ เมธาวี, ธนํ เสฏฺฐํว รกฺขติฯ
‘‘มา ปมาทมนุยุญฺเชถ, มา กามรติ สนฺถวํ;
อปฺปมตฺโต หิ ฌายนฺโต, ปปฺโปติ ปรมํ สุข’’นฺตฺนฺตฺติฯ
7. สมยสุตฺตํ
[37] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมิํ มหาวเน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ สพฺเพเหว อรหนฺเตหิ; ทสหิ จ โลกธาตูหิ เทวตา เยภุยฺเยน สนฺนิปติตา โหนฺติ ภควนฺตํ ทสฺสนาย ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อถ โข จตุนฺนํ สุทฺธาวาสกายิกานํ เทวตานํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมิํ มหาวเน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ สพฺเพเหว อรหนฺเตหิ; ทสหิ จ โลกธาตูหิ เทวตา เยภุยฺเยน สนฺนิปติตา โหนฺติ ภควนฺตํ ทสฺสนาย ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ ยํนูน มยมฺปิ เยน ภควา เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต สนฺติเก ปจฺเจกํ คาถํ [ปจฺเจกคาถํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ภาเสยฺยามา’’ติฯ